การเลือกและพัฒนาสื่อการเรียนการสอน
คำว่า สื่อ มีความหมายกว้างมาก การเรียนการสอนในบางครั้งอาจเกิดขึ้นจากเสียงของผู้สอน ตำราเทป วีดิทัศน์ ภาพยนตร์ และคอมพิวเตอร์ medium หรือ media มาจากภาษาลาตินหมายถึงบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ตรงกลาง (intermediateหรือ middle) หรือเครื่องมือ (instrument) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นวิธีการของการสื่อสารที่ส่งไปถึงประชาชน เป็นพาหนะของการโฆษณา (Guralnikjv07, 1970) ดังนั้น เมื่อพิจารณาในด้านของการสื่อสารแล้ว สื่อจึงหมายถึง สิ่งที่เป็นพาหนะนำความรู้หรือสารสนเทศจากแหล่งกำเนิดไปสู่ผู้รับ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ ภาพยนตร์ รูปภาพ วัสดุฉาย สิ่งพิมพ์ และสิ่งดังกล่าวนี้ เมื่อนำมาใช้กับการเรียนการสอน เราเรียกว่าสื่อการเรียนกาสอน
กลวิธีการสอนและการตัดสินใจเลือกสื่อ เป็นความสัมพันธ์ระหว่างกัน และควรจะทำไปพร้อมกันหลังจากที่ได้มีการกำหนดจุดหมายและวิเคราะห์ภาระงานแล้ว แบบจำลองในการเลือกสื่อมีทั้งแบบที่มีความเรียบง่าย และแบบที่มีความซับซ้อน โรเบิร์ต เมเจอร์(Robert Mager) (Knirk and Gustafson, 1986:169) ผู้ซึ่งเป็นนักออกแบบการสอน เพื่อการค้าที่ประสบความสำเร็จ ได้กล่าวว่า กระดาษเป็นตัวกลางอย่างหนึ่งของการเลือก นอกจากว่าในกรณีที่ดีที่จะสามารถเลือกใช้สิ่งที่ทำจากอย่างอื่น วัสดุที่เป็นกระดาษมีราคาแพงในการออกแบบและผลิต ง่ายที่จะผลิตเพิ่มใช้ง่ายและนักเขียนส่วนใหญ่มีความเข้าใจ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวอย่างของแบบจำลองง่ายๆ สำหรับการเลือกสื่อ ส่วนแบบจำลองที่ซับซ้อนเป็นวิธีการที่ส่วนใหญ่ควรจะหลีกเลี่ยงเท่าที่จะเป็นไปได้ เมื่อเปรียบเทียบกับหลักเกณฑ์ของทหาร ก็คือ อย่าโง่เลย ทำให้ดูง่ายๆเถอะ (KISS : Keep It Simple, stupid)
การนำเสนอสื่อการเรียนการสอน ควรเป็นการกระตุ้นทางการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ ง่ายแก่การเข้าใจ สื่อที่ซับซ้อนมีแนวโน้มของการสิ้นเปลืองเวลาและค่าใช้จ่ายสูงและบ่อยครั้งพิสูจน์ได้ว่ามีประสิทธิภาพและเชื่อถือไม่ได้ ควรใช้สื่อการเรียนการสอนทุถูกที่สุดที่ทำให้ผู้เรียนบรรลุจุดประสงค์ตามเจตนารมณ์ภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล อย่างไรก็ตามข้อควรจำ คือ การสื่อราคาย่อมเยาที่ผลิตไม่ดีทำให้การเรียนการสอนไม่มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับการใช้สื่อที่ซับซ้อนดังกล่าวแล้วเช่นกัน
การเลือกและพัฒนาสื่อการเรียนการสอน เป็นเรื่องสำคัญอีกประการหนึ่งในกระบวนการออกแบบการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ นักออกแบบการเรียนการสอนต้องตัดสินใจเกี่ยวกับการเลือกวิธีการ/สื่อ หรือเลือกวิธีการ เลือกวัสดุอุปกรณ์ ระบุประโยชน์ของวัสดุอุปกรณ์ทาการค้าริเริ่มและเฝ้าระวัง
กระบวนการผลิตสื่อ นักออกแบบอาจจะทำเพียงการวางแผนมโนทัศน์ สคริปและนานๆ ครั้งอาจจะผลิตวัสดุ (software) สำหรับจำหน่ายความจำกัดสำหรับบทบาทของผู้ออกแบบในการตัดสินใจเกี่ยวกับวิธี/สื่อ จะหลากหลายไปตามประสบการณ์ และแม้ว่าจะมีวิธีการหลายวิธีในการจำแนกสื่อเป็นประเภทๆ ก็ตาม ก็ยังไม่มีอนุกรมภิธานสื่อ (taxonomy of media) ที่พัฒนาขึ้นจนเป็นที่น่าพอใจ (Seels andGlasgow, 1990: 179)
ในบทนี้จึงเป็นการเสนอสื่อ 3 ประเภท คือ วิธีการ สื่อดั้งเดิม เทคโนโลยีใหม่หรือสื่อดิจิทัล ภายในแต่ละประเภทจะมีทางเลือกและรูปแบบมาก เช่น กราฟฟิก และฟิล์ม หรือโทรทัศน์เฉพาะกราฟิกก็มีหลายรูปแบบได้แก่ แผนภูมิ การ์ตูน และภาพประกอบการเลือกวิธีการ/สื่อ อยู่บนพื้นฐานของเกณฑ์จะมีความเหมาะสมสำหรับผู้เรียนสิ่งที่เรียนและข้อจำกัดคุณลักษณะของผู้เรียน จุดประสงค์ สถานการณ์ การเรียนรู้ และข้อจำกัดนั้นต้องระบุขึ้นก่อนที่จะเลือกวิธีการและสื่อหลังจากที่ได้มีการระบุวิธีการ/สื่อแล้วผู้ออกแบบต้องแสวงหาสื่อจากดัชนีสื่อจากสื่อที่สร้างขึ้นเพื่อการค้าซึ่งสามารถที่จะนำมาใช้หรือนำมาปรับใช้ได้ถ้าสื่อเหล่านั้นไม่มีประโยชน์ก็ต้องผลิตสื่อข้นเอง
ผู้ออกแบบการเรียนการสอนต้องตัดสินใจว่าใครจะเป็นผู้ผลิตสื่อ ทีมในการผลิตควรจะประกอบไปด้วยใครบ้าง ผู้ออกแบบต้องริเริ่ม เฝ้าระวังติดตามกระบวนการผลิต เป็นความรับผิดชอบของผู้ออกแบบที่จะต้องมีความแน่ใจในบูรณาการภาพของการออกแบบและคุณภาพของวัสดุอุปกรณ์ด้วยการเฝ้าระวังติดตามการผลิต
ประเภทของสื่อ
สื่อสามารถจำแนกได้ สี่ ประเภท คือ สื่อทางหู (audio) ทางตา (visual) ทางหูและทางตารวมกัน(audio – visual)และสัมผัส (tactile) ผู้ออกแบบสามารถเลือกสื่อที่เหมาะสมที่สุดจากประเภทของสื่อต่างๆสำหรับภาระงานการเรียนการสอนที่มีความเฉพาะเจาะจงสื่อต่างๆทั้ง 4 ประเภทและตัวอย่างที่เกี่ยวข้อง มีดังต่อไปนี้
1. สื่อทางหู ได้แก่ เสียงของผู้ฝึก ห้องปฏิบัติการทางเสียง การเตรียมเทปสำหรับผู้ฝึกเทปแผ่นสี วิทยุกระจายเสียง
2. สื่อทางตา ได้แก่ กระดานชอล์ก กระดานแม่เหล็ก กราฟ คอมพิวเตอร์ วัตถุต่างๆ ที่เป็นของจริง รูปภาพ แผนภูมิ กราฟภาพถ่าย หุ่นจำลอง สิ่งที่ครูแจกให้ หนังสือ ฟิล์ม สไลด์ แผ่นใส่
3. สื่อทางหูทางตา ได้แก่ เทปวีดิโอ ทีวีวงจรปิด โปรแกรมโสตทัศนวัสดุ สไลด์ เทปภาพยนตร์เสียงในฟิล์ม ทีวีทั่วไป เทคโนโลยีอื่นๆ เช่น ดิจิทัล วีดิโอ อินเตอร์แอคทิฟเทคโนโลยี (digital Video interactive technology)
4. สื่อทางสัมผัส ได้แก่ วัตถุของจริง แบบจำลองในการทำงาน เช่น ผู้แสดงสถานการณ์จำลอง
ข้อดีและข้อเสียของสื่อบางประเภท
ในการเลือกสื่อที่มีความเหมาะสมที่สุดสำหรับภาระงานการเรียนรู้ที่มีความเฉพาะเจาะจงผู้ออกแบบจำเป็นต้องรู้ถึงความเป็นไปได้ในข้อดีและข้อเสียที่เกี่ยวข้องกับสื่อแต่ละประเภท ตารางที่ 16 จะแสดงให้เห็นถึงข้อดีและข้อเสียของตัวอย่างสื่อจากประเภทของสื่อสำคัญ 4 ประเภทและตารางที่ 17 แสดงประเภทและคุณสมบัติของสื่อการเรียนการสอน
การตัดสินใจเกี่ยวกับวิธีการและสื่อ
การตัดสินใจเกี่ยวกับวิธีการและสื่อ บางครั้งเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน ในบางเวลาจะเลือกวิธีการก่อนและเลือกสื่อที่จำเป็นในการในการใช้ทีหลัง ดูแกน เลียด (Dugan laird:180)เปรียบเทียบวิธีการว่าเป็นเหมือนทางหลวง (highway) ที่นำไปสู่จุดหมายปลายทาง (จุดประสงค์) และสื่อ (วัสดุ)เป็นสิ่งที่เพิ่มเติม (accessories)บนทางหลวง เช่น สัญญาณ แผนที่ ซึ่งทำให้การเดินทางสะดวกขึ้น
วิธีการ เป็นกลยุทธ์การเรียนการสอนที่มีระดับความชี้เฉพาะมาก เป็นวิธีการเรียนการสอนที่ตัดสินธรรมชาติของบทเรียน Joyce and Weil (1980)เรียกสิ่งเหล่านี้ว่าแบบจำลองการสอน (model of teaching)แบบจำลองเป็นวิธีการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ในระดับบทเรียนมากว่าที่จะเป็นระดับหน่วยในหลักสูตร
ตารางที่ 16 ข้อดีและข้อเสียของสื่อบางอย่าง
สื่อ
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
โสตวัสดุ
| ||
1. เทป
|
· จูงใจ
· ใช้กับกลุ่มใหญ่ได้
· ใช้ได้ทั้งที่บ้าน ที่ทำงานและในชั้นเรียน
· สามารถก็อปปี้ได้
· ง่ายในการเก็บรักษา
|
· ก่อให้เกิดความเบื่อหน่าย
· ไม่มีการให้ผลป้อนกลับในการเรียนการสอน
· ใช้เวลาในการกรอเทปกลับ
· สามารถถูกทำลาย ฉีกขาดเสียหายได้
· หน่วยที่กรอเทปกลับอาจจะไม่ว่าง
|
2. คำแนะนำของผู้ฝึก
|
· เผชิญหน้ากัน
· ให้ผลป้อนกลับที่ดีกว่า
|
· ไม่เห็นหน้ากัน
· ต้องการทรัพยากรเพิ่มมากขึ้น
|
3. โทรทัศน์
|
· ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง
· เป็นระบบไปรษณีย์ที่สั้นๆ
|
· สิ้นเปลือง
· เครื่องมือพัง
|
ทัศนวัสดุ
| ||
1. ภาพพลิก (Flip Charts)
|
· ราคาถูก
· เก็บสารสนเทศได้
· เคลื่อนย้ายได้
· เปลี่ยนสารสนเทศได้ เช่น การพิมพ์
· นำเสนอบทเรียนได้
· ไม่จำกัดว่าใช้กับคนคนเดียว
|
· ครูจำเป็นต้องนำเสนอด้วยการเขียนที่สวยงาม
· จำกัดขนาด
· สารสนเทศมากเกินไป
· กินเวลามาก
· ยากที่จะแสดงทัศนะ
|
2. สิ่งที่ครูแจก
|
· ราคาถูก
· เป็นการอ้างอิงที่ถาวร
· ช่วยในการทบทวน จดจำ
· ช่วยนักเรียนที่ไม่ได้เข้าชั้นเรียน
· ให้การอ้างอิงที่ค้นคว้าได้ในห้องสมุด
· นำไปสู่พัฒนาการก้าวต่อไปของนักเรียน
· เป็นข้อแนะนำในการศึกษา
· ทำให้นักเรียนมีส่วนร่วม
· ใช้ได้กับนักเรียนทุกคน เช่น ภาษาระยะทางและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
· สามารถสรุปให้เห็นภาพทั้งหมดได้
|
· ราคาอาจแพง
· กราฟฟิก (สองมิติ)
· นักเรียนอาจไม่ได้รับการบังคับให้อ่าน
· ก่อให้เกิดการเรียนรู้แบบเฉื่อยชา
· สารสนเทศล้าสมัย
|
3. กระดาษคำพื้นฐาน กระดาษขาวตายตัว
|
· ให้สารสนเทศที่ลอกได้
· เห็นได้
· ราคาถูก
· ให้สีหลากหลายได้
· ยอมให้กลุ่มมีส่วนร่วมได้
· ขั้นตอนมีเหตุมีผล
· สามารถเปลี่ยนแปลงได้
|
· จำกัดขนาดของปากกา
· ชอล์กทำให้เลอะเถอะ
· ใช้เวลามากในการเขียน
· บางคนเขียนไม่สวย
· สองมิติ
· สารสนเทศไม่สัมพันธ์กัน
· สารสนเทศขาดตอนได้โดยไม่ได้ตั้งใจ
|
4. กระดาษขาวและกระดานดำที่ตายตัว
|
· ให้ข้อมูลที่กว้างขวง
· ยอมให้เก็บข้อมูลเชิงตรรกะได้
· ยอมให้มีเก็บสารสนเทศที่มีเหตุผล
· ยอมให้เขียนสารสนเทศไว้ก่อนได้
· ซ่อนและโยงความสัมพันธ์ของสารสนเทศได้
· ผู้สอน/นักเรียนช่วยกันให้ความคิดสารสนเทศได้
|
· ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
|
5. กระดานดำที่ใช้แม่เหล็กMagnetic or Felt Board
|
· เคลื่อนย้ายแบบจำลองได้
· สร้างสารสนเทศใหม่ได้
|
· ไม่ใช่ของจริง
· จำกัดกลุ่มผู้มีส่วนร่วม
|
6. การผสมผสานกระดานตายตัวต่างๆ (Fixed Board to the above)
|
· เหมือนข้อ 5
|
· ต้องการผู้สอนที่มีทักษะ
· จัดการจัดห้องเรียน
· นักเรียนสามารถมองได้เพียงด้านเดียว
|
7. การสาธิต (Demonstration)
|
· ประหยัดเวลาและการพูด
· ง่ายในการเฝ้าดูมากกว่าการฟัง
· เห็นของจริง
· มาตรฐานการสาธิต
|
· ต้องการผู้สอนที่มีทักษะ
· นักเรียนไม่มีส่วนร่วม
· นักเรียนอาจไม่รู้ว่าต้องสังเกตอะไร
· นักเรียนอาจมีความเข้าใจช้าหรือไม่เข้าใจเลย
|
8. คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction)
|
· เสริมแรงบ่อยครั้ง
· ทำให้เกิดการเรียนรู้แบบว่องไว
· นักเรียนประสบความสำเร็จ
· มีปฏิสัมพันธ์กับสื่ออื่นๆ
· ผิดพลาดน้อย
|
· ถ้าปราศจากการออกแบบที่ดีก็จะก่อให้เกิดความเบื่อหน่าย
· หนึ่งร้อยชั่วโมงที่ใช้ในการออกแบบผลิตงานได้เพียงหนึ่งชั่วโมง
· เสียค่าใช้จ่ายสูง ทักษะที่จะใช้คีย์บอร์ดนักเรียนต้องพัฒนาเอง
· ไม่ได้เหมาะกับนักเรียนทุกคน
|
โสตทัศนะ
| ||
1. ฟิล์ม/วีดิโอ (Film/Video)
|
· สามารถแสดงพัฒนาการของวิธีการหรือการปฏิบัติ
· ผสมผสานทัศนะคำพูดและเสียงอื่นเข้าด้วยกัน
· เปลี่ยนเวลาได้
· สนุกสนาน
· จูงใจ
|
· นักเรียนไม่มีส่วนร่วม
· แพง
· โดยทั่วไปสร้างขึ้นจากจุดประสงค์ของคนอื่น
|
สิ่งที่รับรู้ด้วยการสัมผัส (Tactile)
| ||
1. ตัวจำลองสถานการณ์ (Simulator)
|
· อนุญาตสำหรับผู้มีทักษะของความเป็นจริง
· ใช้สำหรับการสาธิต
· ประโยชน์คุ้มค่า
· แก้ไขวิธีการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง
· ยอมให้มีการวิเคราะห์
· ยอมให้นักเรียนมีส่วนร่วม
|
· จำกัดโปรแกรม
· ต้องการคนที่มีทักษะความสามารถสูง
· ต้องการการนิเทศอย่างใกล้ชิด
|
2. อินเตอร์แอคทิฟวีดิโอคอมพิวเตอร์ (Interactive Video/Computer)
|
· เหมือนกับ CAI
· แบบจำลองทัศนะ/การสาธิต
· จูงใจ
|
· ยากที่จะสร้างกิ่งก้านสาขา
· กรอกกลับช้า
|
3. อินเตอร์แอคทิฟดิซค (Interactive Video disc)
|
· เหมือนกับคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI)
· แบบจำลองทางทัศนะ/การสาธิต
· คุณภาพในการแก้ปัญหาสูง
· มีจำนวนมาก
|
· ราคาสูง
· ค่าบำรุงรักษาสูง
|
4. ดิจิทัล วีดิโอ เทคโนโลยี
[ Digital Video Technology(DVT) ]
|
· การฝึกอบรม (สื่อผสม) (multimedia)
· บันทึก/เล่นป้อนกลับ/บรรณาธิการให้การเคลื่อนไหวที่เป็นจริงเป็นจินตนาการของนักคอมพิวเตอร์
· ผู้พัฒนาการเรียนการสอนควบคุมส่วนประกอบของสื่อผสมที่เป็นของรายวิชาให้ทันสมัย เก็บสะสมไว้ในคอมพิวเตอร์
· ยอมให้ผู้เรียนพัฒนาการฝึกหัดเกี่ยวกับอินเตอร์แอคทิฟ วีดิโอ (interactive video)
· ไม่จำกัดสาขา
· เสียงในฟิล์มจำกัดโดยไฟล์ที่สะสมไว้
· วีดิโอ (V.D.O.) ที่แสดงการเคลื่อนไหวยังคงเป็นตำราในการจินตนาการ
· โสตกราฟิกที่สะสมไว้ในดิจิตอล (digital)
|
· ข้อถกเถียงเกี่ยวกับการออกแบบมีความซับซ้อน
· ต้องการบุคลากรที่พัฒนาทักษะ ในหลายสาขา
|
5. ดีวีที (DVT) เป็นเครื่องหมายการค้า วีดิโอดิซ (video disc)
|
· ใช้ไฟล์จาก Hard disk หรือ CD-ROM
· CD-ROM มีค่าใช้จ่ายในการผลิตถูกกว่า
|
ตารางที่ 17 ประเภทและคุณสมบัติของสื่อการเรียนการสอน
วัสดุอุปกรณ์
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
1. สิ่งพิมพ์ต่างๆ เช่น หนังสือตำราเรียนคู่มือ ฯลฯ
|
· เป็นวิธีการเรียนรู้ที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง
· สามารถอ่านได้ตามอัตราความสามารถของแต่ละบุคคล
· เหมาะสำหรับอ้างอิงหรือทบทวน
· เหมาะสำหรับการผลิตเป็นจำนวนมากสะดวกในการแก้ไขปรับปรุงเนื้อหาใหม่
|
· ถ้าจะให้ได้สิ่งพิมพ์คุณภาพดีจำเป็นต้องใช้ต้นทุนในการผลิตสูง
· บางครั้งต้องพิมพ์ใหม่เพื่อปรับปรุงข้อมูลที่ล้าสมัย
· ผู้ไม่รู้หนังสือมาสามารถอ่านเข้าใจได้
|
2. ของจริง ของตัวอย่าง
|
· แสดงสภาพได้ตามความเป็นจริง
· เป็นลักษณะ 3 มิติ
· สัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า
· สามารถจับต้องและพิจารณารายละเอียดได้
· ปกติเหมาะสำหรับการเสนอต่อกลุ่มย่อย
· อาจเสียหายได้ง่าย
· เก็บรักษาลำบาก
|
· บางครั้งอาจจะลำบากในการจัดหา
· ของบางสิ่งอาจมีขนาดใหญ่เกินกว่าจะนำมาแสดงได้
· บางครั้งของนั้นอาจมีราคาสูงเกินไป
|
3. ของจำลองหุ่นจำลองขนาดเท่าหรือขยายของจริงมองด้วยตาเปล่า (เช่น ลักษณะของอวัยวะภายในร่างกาย)
|
· เป็นลักษณะ 3 มิติ
· สามารถจับต้องและพิจารณารายละเอียดได้
· ชำรุดเสียหายได้ง่าย
· สามารถแสดงหน้าที่และลักษณะส่วนประกอบ
· ช่วยในการเรียนรู้และการปฏิบัติทักษะชนิดต่างๆ
· หุ่นบางอย่างสามารถผลิตได้ด้วยวัสดุหรือวัสดุท้องถิ่นที่หาได้ง่าย
|
· ต้องอาศัยความชำนาญในการผลิต
· ส่วนมากราคาจะแพง
· ปกติเหมาะสำหรับการแสดงต่อกลุ่มย่อย
· ถ้าทำได้ไม่เหมือนของจริงทุกประการบางครั้งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้
|
4. วัสดุกราฟิก เช่น แผนภูมิ แผนภาพโปสเตอร์ ภาพถ่าย ภาพเขียน การ์ตูน
|
· ช่วยแสดงลำดับขั้นตอนของเนื้อหา
· สามารถจัดหาได้ง่ายและสามารถผลิตได้จำนวนมาก
· เก็บรักษาได้ง่ายด้วยวิธีผลึกภาพ
|
· เหมาะสำหรับการเรียนในกลุ่มเล็ก
· งานกราฟิกที่มีคุณภาพดีจำเป็นต้องใช้ช่างเทคนิคที่มีความชำนาญในการผลิต
· การใช้ภาพบางประเภท เช่น ภาพ
· การใช้ภาพบาประเภท เช่น ภาพตัดส่วน (sectional drawings) หรือการ์ตูนอาจไม่ช่วยให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความเข้าใจดีขึ้น เพราะไม่สามารถสัมพันธ์กับของจริงได้
|
5. กระดานดำ กระดานขาว
|
· ต้นทุนในการผลิตต่ำ
· สามารถเขียนรายงานกราฟฟิกได้หลายชนิด
· ช่วยในการสร้างความเข้าใจตามลำดับ เรื่องราวเนื้อหา
|
· ผู้สอนต้องทันหลังให้กลุ่มผู้เรียน เมื่อเขียนกระดานทำให้ไม่สามารถควบคุมชั้นเรียนได้ดี
· สามารถอ่านข้อความบนกระดานได้ไม่ไกลมากนัก ทำให้กลุ่มผู้เรียนมีจำนวนจำกัด
· ภาพ หัวข้อ หรือประเด็นคำบรรยายต้องถูกลบ ไม่สามารถนำมาใช้ได้อีก
· ผู้สอนต้องมีความสามารถในการเขียนกระดานพอสมควร
|
6. กระดานผ้าสำลีและกระดานแม่เหล็ก
|
· สามารถนำมาใช้ได้อีก
· วัสดุในการผลิตหาง่ายและสามารถผลิตได้เอง
· เหมาะสำหรับแสดงความเกี่ยวพันของลำดับเนื้อหาเป็นขั้นตอน
· ช่วยดึงดูดความสนใจ
· สามารถให้กลุ่มผู้เรียนร่วมใช้เพื่อสร้างความสนใจและทดสอบความเข้าใจ
|
· ไม่เหมาะสำหรับผู้เรียนกลุ่มใหญ่
|
7. การศึกษานอกสถานที่
|
· ผู้เรียนสามารถสังเกตการณ์และมีส่วนร่วมได้ด้วยตนเอง
· เปิดโอกาสให้ผู้เรียนร่วมทำงานเป็นกลุ่มและสร้างสรรค์ความรับผิดร่วมกัน
· สามารถจูงใจเป็นรายบุคลได้ดี
|
· เสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
· จัดเฉพาะผู้เรียนกลุ่มย่อย
· ต้องเตรียมการและวางแผน โดยละเอียดรอบคอบ
|
สื่อการสอนประเภทใช้เครื่องฉาย
1. ประเภทเสนอภาพนิ่ง
| ||
1.1 เครื่องภาพทึบแสง
|
· สามารถขยายภาพถ่าย ภาพเขียน วัสดุทึบแสง ให้เป็นภาพที่มองดูมีขนาดใหญ่ได้
· เหมาะสำหรับผู้เรียนกลุ่มใหญ่
· ช่วยลดภาระในการผลิตสไลด์และแผ่นโปร่งใส
|
· ต้องใช้เครื่องในห้องที่มืดสนิทจึงจะเห็นภาพขยายได้ชัดเจน
· เครื่องมือขนาดใหญ่ทำให้ขนย้ายลำบาก
|
1.2 แผ่นโปร่งใส
|
· สามารถใช้ได้ที่ที่มีแสงสว่าง
· ผู้สอนหน้าเข้าหาผู้เรียนได้
· ผู้สอนสามารถเตรียมแผ่นโปร่งใสไว้ใช้ล่วงหน้าหรือสามารถเขียนลงไปพร้อมทำการบรรยายเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจ
|
· ถ้าจะผลิตแผ่นโปร่งใสที่มีลักษณะพิเศษต้องลงทุนสูง
· ผู้เรียนไม่มีบทบาทร่วมในการใช้อุปกรณ์
|
1.3 สไลด์
|
· เหมาะสำหรับผู้เรียนกลุ่มใหญ่และกลุ่มเล็ก
· ผลิตค่อนข้างง่ายและและทำสำเนาได้ง่ายเช่นกัน
· สามารถเปลี่ยนสลับรูปในการสอนได้ตามต้องการ
· สามารถปรับเปลี่ยนรูปที่ไม่ทันสมัยหรือเพิ่มภาพตามความต้องการของเนื้อเรื่อง
· ใช้สะดวก เก็บรักษาง่าย
· ใช้ประกอบกับเครื่องบันทึกเสียงในการผสมสัญญาณเสียงและภาพ
· สามารถใช้ได้เครื่องฉายที่ใช้ไฟฟ้าและแบตเตอรี่
|
· ต้องฉายในห้องที่มืดพอสมควรยกเว้นจะมีจอ Daylight Screen
· การถ่ายทำชุดสไลด์ที่ดีต้องมีการวางแผนทำบทสคริปการถ่ายทำและการจัดภาพเป็นชุด
|
1.4 ฟิล์มสคริป
|
· เหมาะสำหรับการเรียนเป็นกลุ่มเล็กหรือรายบุคคล ใช้ภาพกับเรื่องอื่นๆได้
· ผลิตเองได้ง่าย
· สะดวกในการใช้และเก็บรักษา
|
· ไม่สามารถตัดต่อสลับ
· ริมหนามเตยชำรุดได้ง่าย
|
1.5 ไมโครฟิล์มไมโครฟิช
|
· สะดวกในการเก็บรักษา
· สามารถจำแนกประเภทได้ง่าย
· เหมาะสำหรับการเก็บรักษาข้อมูลสิ่งพิมพ์เพราะมีขนาดเล็ก
· ขนาดเล็กหยิบใช้ได้สะดวก
|
· ไม่สมารถอ่านข้อความได้ด้วยตาเปล่าต้องใช้เครื่องอ่านที่มีคุณภาพ
· เครื่องอ่านใช้อ่านคนเดียว มีราคาไม่สูงมากนัก
· เครื่องอ่านสำหรับฉายให้กลุ่มใหญ่จะราคาแพง
|
2. ประเภทเสนอภาพเคลื่อนไหว
| ||
2.1 ภาพยนตร์ (8 และ 16 มม.)
|
· ให้ภาพที่ดูแล้วเสมือนมีการเคลื่อนไหวของสิ่งของและให้เสียงประกอบซึ่งทั้งภาพและเสียงมีลักษณะใกล้เคียงความจริงมาก
· เหมาะสำหรับการสอนกลุ่มใหญ่และกลุ่มย่อย
· ภาพยนตร์ 8 มม. เหมาะสำหรับการเรียนรายบุคคล
· เหมาะสำหรับให้ความรู้ แต่ผู้สอนจะต้องอธิบายบางสิ่งในภาพยนตร์ก่อนทำการฉายหรือเมื่อฉายจบแล้วควรมีการซักถามปัญหาหรือภิปรายร่วมกันเพื่อสรุปเรื่อง
|
· ต้นทุนในการผลิตสูงมากและกรรมวิธีในการผลิตยุ่งยาก
· หากผลิตฟิล์มจำนวนน้อยม้วนจะทำให้ต้นทุนในการผลิตสูงกว่าเดิมมากต้องใช้ไฟฟ้าในการฉาย
· ลำบากในการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์
· ต้องฉายในที่มืด
· หากใช้ภาพยนตร์ต่างประเทศอาจจะไม่ตรงต่อความต้องการของผู้ใช้จริงๆ หรือผู้ชมอาจไม่เข้าใจเนื้อเรื่องได้เท่าที่ควร
|
2.2 โทรทัศน์
|
· สามารถใช้ได้กับผู้เรียนหรือผู้ชม ไม่จำกัดจำนวนและสามารถถ่ายทอดไปได้ระยะไกลๆ
· ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้เรียน
· เหมาะสำหรับใช้ในการจูงใจสร้างทัศนคติและเสนอปัญหาให้ผู้เรียนคิดหรือเสริมสร้างการอภิปรายร่วมกัน
· ช่วยลดภาระของผู้สอน คือแทนที่จะต้องบรรยายหลายครั้ง หรือหลายแห่งในหัวข้อเดียวกันต่อผู้เรียนหลายกลุ่มก็ใช้ในการถ่ายทอดไปยังที่ต่างๆ ได้ในเวลาเดียวกัน
|
· การจัดรายการที่ดีต้องใช้ต้นทุนสูงมากและต้องใช้ช่างเทคนิคในการผลิตรายการ
· ต้องใช้ไฟฟ้า
· เป็นการสื่อสารทางเดียวทำให้ผู้เรียนไม่สามารถถามข้อสงสัยได้ทันทีและผู้สอนไม่สามารถทราบการตอบสนองของผู้เรียนได้
· รายการที่เสนออาจไม่ตรองกันตารางสอนหรือบทเรียน
|
2.3 โทรทัศน์วงจร
|
· สามารถใช้กับผู้เรียนกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่
· ใช้ถ่ายทอดเหตุการณ์หรือการสอนที่ผู้เรียน/ผู้ชมไม่สามารถร่วมกันอยู่ในบริเวณที่เรียนที่ชมพร้อมกัน
· สามารถใช้ร่วมกับวีดิทัศน์ในการส่งภาพได้
|
· รับภาพโยเฉพาะบริเวณที่กำหนดไว้เท่านั้น
|
2.4 วีดิทัศน์
|
· สามารถใช้ใช้กับผู้เรียนกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่
· สามารถฉายซ้ำเมื่อผู้เรียนไม่เข้าใจหรือผู้ทบทวน
· แสดงการเคลื่อนไหวของภาพประกอบเสียงที่ให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงของจริงมากมีขนาดเล็กอ่อนมาก
|
· ต้นทุนอุปกรณ์และการผลิตสูงต้องใช้ช่างเทคนิคในการผลิต/จัดรายการ
· ตัวอักษรที่ปรากฏในจอโทรทัศน์
· ม้วนเทปเสื่อมสภาพได้ง่าย
|
3. สื่อการสอนประเภทเครื่องเสียง
| ||
3.1 วิทยุหรือรายบุคคล
|
· สามารถใช้ใช้กับผู้เรียนกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่
· ระยะกระจายเสียงกว้างและถ่ายทอดระยะไกลๆ
· ลดภาระของผู้สอนหรือผู้บรรยายในการเดินทางไปสอนในที่ต่างๆ
· ดึงดูดความสนใจได้ดี
· เครื่องรับวิทยุราคาถูกและสามารใช้กับแบตเตอรี่ได้
· สามารถสามารใช้กับสื่ออื่นๆ เช่น สิ่งพิมพ์เพื่อประกอบการเรียน
|
· ต้องใช้ห้องที่ทำขึ้นเฉพาเพื่อการกระจายเสียง
· ผู้ฟังหรือผู้เรียนต้องปรับตัวเข้าหารายการ เนื่องจากผู้บรรยายไม่สามารถปรับตัวเข้าหาผู้ฟังได้
· เป็นการสื่อสารทางเดียวที่ทำให้ผู้บรรยายไม่สามารถทราบปฏิกิริยาสนองกลับของผู้ฟัง
|
3.2 เทปบันทึกเสียง
|
· สามารถใช้ได้โดยไม่จำกัดขนาดและจำนวนผู้เรียน
· เหมาะสำหรับการเรียนรู้ด้วยตนเองหรือกับกลุ่มย่อย
· การเปิด/ปิด/เดินหน้า/ย้อนกลับสามารถทำได้โดยสะดวก
· อุปกรณ์ราคาถูกและสามารถใช้กับแบตเตอรี่ได้
· ใช้ได้หลายกรณี เช่น ใช้ประกอบสไลด์ ใช้บันทึก
· เสียงที่ไม่สามารถฟังได้ทั่วถึง เช่น การเต้นของหัวใจ
|
· การบันทึกเสียงที่คุณภาพดีจำเป็นต้องใช้ห้องละอุปกรณ์ที่ดีมีคุณภาพสูง
· ต้องมีความชำนาญพอสมควรในการตัดต่อเทป
· ต้องระมัดระวังในการเก็บรักษา
|
3.3 แผ่นซีดี
|
· บันทึกเสียงในประเภทต่างๆ ในระบบ ดีจิทัลที่ให้ความชัดมาก
· ไม่มีการพลั้งเผลอลบเสียงที่บันทึกไว้แล้วและไม่พรั่นจ่อสนามแม่เหล็ก
· เรียกค้นข้อมูลเสียงได้รวดเร็ว
· มีอายุการใช้งานนานและยากแก่การบุบสลาย
· ขนาดเล็กกะทัดรัดเหมาะแก่การพกพา
|
· ไม่สามารถบันทึกทับได้
· โดยทั่วไปแล้วผู้ใช้ไม่สามารถบันทึกเสียงเองได้ต้องมีการบันทึกเสียงมาจากโรงงานผู้ผลิต
· ต้นทุนการผลิตสูงกว่าการบันทึกลงเทปเสียงแต่ผลิตเป็นจำนวนมากจะลดต้นทุนได้มาก
· เครื่องเล่นมีราคาสูงกว่าเครื่องเล่นเทปเสียง
|
4. สื่อเชิงโต้ตอบ (Interaction Media)
4.1 ด้านวัสดุอุปกรณ์
| ||
4.1.1 คอมพิวเตอร์
|
· ใช้งานได้หลายประเภท เช่น การคำนวณจัดเก็บฐานข้อมูล การจัดหน้า สิ่งพิมพ์ ฯลฯ
· ใช้แก้ปัญหาต่างๆ ที่ซับซ้อนได้
· เสนอข้อมูลได้หลายประเภททั้งตัวอักษรภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวและเสียง
· มีการโต้ตอบของผู้เรียนเพื่อให้ผลป้อนกลับด้วยความรวดเร็ว
· สามารถบันทึกข้อมูลเก็บไว้ในหน่วยความจำของเครื่องหรือในวัสดุบันทึกอื่น เช่น จานบันทึกและเทปแม่เหล็กได้
· ใช้ร่วมกับโมเด็มเพื่อใช้ในอินเทอร์เน็ตเพื่อการสื่อสารข้อมูลกับฐานข้อมูลอื่นๆ ได้ทั่วโลก
· เครื่องกระเป๋าหิ้วขนาดเล็กเหมาะแก่การพกพาไปใช้ในที่ต่างๆ ได้
|
· มีราคาสูงพอสมควร
· ต้องมีการบำรุงรักษาตามระยะเวลา
· ต้องใช้โปรแกรมซอฟต์แวร์ประเภทต่างๆ จึงจะใช้งานได้
· มีการเปลี่ยนแปลงตามอุปกรณ์ เช่น ความเร็วในการทำงานของการ์ดประเภทต่างๆ จนทำให้เครื่องที่มีอยู่ล้าสมัยได้เร็ว
|
4.1.2 บทเรียนการสอนใช้คอมพิวเตอร์ช่วย (CAI)
|
· ผู้เรียนสามารถมีการโต้ตอบกับบทเรียนได้
· สามารถป้อนกลับแก่ผู้เรียนได้ทันที
· มีรูปแบบบทเรียนเลือกใช้มากมาย เช่น การสอนทบทวน เกม การจำลอง ฯลฯ
· เสนอบทเรียนได้ทั้งลักษณะตัวอักษรภาพและเสียง
· ผู้เรียนสามารถทบมวนเนื้อหาบทเรียนและทำกิจกรรมได้ตามความสามารถของตนในลักษณะการศึกษารายบุคคล
|
· ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการเรียนโปรแกรมบทเรียน
· โปรแกรมซอฟต์แวร์ บางประเภทมีราคาสูงพอสมควร
|
4.1.3 ซีดี-รอม
|
· สามารถบันทึกข้อมูลได้มากถึง 680เมกะไบต์
· บันทึกข้อมูลได้ทั้งตัวอักษรภาพนิ่งภาพกราฟิก เคลื่อนไหวภาพ วีดีทัศน์ และเสียง
· เรียกค้นข้อมูลได้รวดเร็วและถูกต้อง
· มีอายุใช้งานนานและยากแก่การบุบสลาย
· ขนาดเล็กกะทัดรัดเหมาะแก่การพกพา
|
· ไม่สามารถบันทึกข้อมูลเดิมได้
· ปกติแล้ว ผู้ใช่ไม่สามารถบันทึกข้อมูลเองได้ ต้องมีการบันทึกมาจากโรงงานผู้ผลิต
· ต้นทุนการผลิตสูง แต่ถ้าผลิตเป็นจำนวนมากจะลดต้นทุนได้มาก
· ต้องใช้เล่นร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์
|
4.1.4 แผ่นวีดิทัศน์ (Videodisc/Laserdisc)
|
· บันทึกข้อมูลในลักษณะตัวอักษรภาพนิ่งภาพกราฟิกเคลื่อนไหว
· แบ่งเป็นสองชนิด บันทึกข้อมูลได้ทั้งแบบหน้าละ 30 นาทีและ 1 ชั่วโมง
· ดูภาพนิ่งได้ทีละภาพด้วยความคมชัดหรือจูภาพหรือภาพเร็วก็ได้เช่นกัน
· เล่นเดินหน้าหรือย้อนกลับได้ด้วยความรวดเร็ว
· ค้นหาเนื้อเรื่องเป็นตอนหรือตามเวลาของการเล่นได้
|
· มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 12 นิ้ว จึงมีขนาดใหญ่ไม่เหมาะในการพกพา
· ผู้ใช้ไม่สามารถบันทึกข้อมูลได้เอง ต้องบันทึกมาจากโรงงานเท่านั้น
|
4.2 ด้านเทคนิควิธีการ
| ||
4.2.1 สื่อหลายมิติ (Hypermedia)
|
· เสนอข้อมูลในลักษณะไม่เป็นเส้นตรงทำให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลในที่ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
· เนื้อหาบทเรียนที่มีทั้งภาพนิ่งภาพกราฟิกเคลื่อนไหว ภาพวีดีทัศน์เสียงพูดเสียงดนตรี
· ผู้เรียนสามารถโต้ตอบกับบทเรียนและได้รับผลป้อนกลับทันที
· สะดวกในการใช้
|
· ต้องใช้โปรแกรมซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพสูงในการผลิตบทเรียน
· ต้องอาศัยเชี่ยวชาญในการสร้างบทเรียน
· ต้องใช้รวมกับคอมพิวเตอร์ที่คุณภาพสูงพอควรจึงจะใช้ได้ดี
· การผลิตบทเรียนลักษณะนี้ต้องอาศัยอุปกรณ์ร่วมหลายอย่างเช่นเครื่องเสียง กล้อง วีดีทัศน์ เครื่องเล่น แผ่น วีดีทัศน์ฯลฯ
|
4.2.2 แผ่นวีดิทัศน์เชิงโต้ตอบ (Interaction Video, Interaction Videodisc)
|
· ใช้ได้กับผู้เรียนกลุ่มใหญ่ กลุ่มย่อยและการศึกษารายบุคคล
· เสนอข้อมูลในลักษณะไม่เป็นเส้นตรง
· การเสนอเนื้อหามีทั้งภาพนิ่ง วีดีทัศน์และเสียง
· ผู้เรียนสามารถโต้ตอบกับบทเรียนและได้รับผลป้อนกลับทันที
· บันทึกผลการเรียนและการตอบสนองของผู้เรียนได้
|
· ต้องใช้อุปกรณ์ร่วมในการทำงานหลายอย่าง
· ต้องเลือกเนื้อหาในแผ่นวีดีทัศน์มาประกอบบทเรียนให้เหมาะสม ซึ่งครั้งอาจหาได้ไม่ตรงนัก
· อุปกรณ์ต่าง ๆ มีราคาสูง จึงทำให้การเรียนแบบนี้ไม่เป็นที่นิยมใช้กันมากนัก
|
4.2.3 อินเทอร์เน็ต
|
· ค้นคว้าข้อมูลได้ทุกมุมโลกอย่างรวดเร็ว
· ติดตามข่าวสารความรู้และความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
· สนทนากับผู้ที่ห่างไกลได้ทั้งลักษณะข้อความและเสียง
· ร่วมกลุ่มอภิปรายกับผู้อื่นที่สนใจเรื่องเดียวกันเพื่อขยายวิสัยทัศน์
· รับส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบข้อความภาพ และเสียงได้อย่างรวดเร็วในราคาย่อมเยา
· ถ่ายโอนแฟ้มข้อมูลในที่ต่าง ๆ ได้
· ติดประกาศข้อความเพื่อหาผู้ที่สนใจในเรื่องเดียวกัน
|
· ข้อมูลที่ได้อาจไม่ถูกต้องเนื่องจากไม่มีผู้ใดรองรับ
· ต้องมีการศึกษาการใช้งานเพื่อการสืบค้นข้อมูล
· นักเรียนและเยาวชนอาจเข้าไปดูในเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม
|
4.2.4 ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
|
· ช่วยจัดปัญหาในเรื่องของเวลาและระยะทางในการเรียน
· ผู้เรียนที่ไม่กล้าแสดงออกในชั้นเรียนจะได้รู้สึกอิสระในการแสดงความคิดเห็น
· เสริมบรรยากาศในการเรียนรู้เพื่อเปิดโอกาสให้การถามขัดข้องใจเป็นการส่วนตัว
· ผู้เรียนสามารถติดต่อกัน ในการแบ่งปันข้อมูลและปรึกษาร่วมกันได้ การพิมพ์และเรียบเรียงเนื้อหา จึงจะทำให้การอภิปรายราบรื่น
|
· เป็นการสื่อสารที่ผู้สื่อสารไม่สามารถแสดงความรู้สึกต่อกันได้ทำให้ขาดความเป็นธรรมชาติ
· อาจเกิดความสับสนในการอภิปรายเนื่องจากอภิปรายในเวลาที่ไม่ต่อเนื่องกัน
|
4.2.5 การสอนในเว็บเป็นฐานการสอนบทเว็บ
|
· ขยายโอกาสทางการศึกษาแก่ผู้เรียนรอบโลกทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง
· การเรียนด้วยการสื่อสารหลายรูปแบบทำให้ผู้เรียนรู้จักการสื่อสารทางสังคม ทำให้การเรียนมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น
· การเรียนด้วยสื่อหลายมิติ ทำให้เลือกเรียนเนื้อหาได้ตามสะดวกโดยไม่ต้องเรียงลำดับกัน
· มีหลักสูตรให้เลือกเรียนมาก
|
· ผู้สอนและผู้เรียนอาจไม่พบหน้ากันเลยอาจทำให้ผู้เรียนบางคนอึดอัดและไม่สะดวกในการเรียน
· ผู้สอนต้องใช้เวลาเตรียมการสอนมาก
· การตอบปัญหาในบางครั้ง อาจไม่เกิดขึ้นในทันทีทำให้ผู้เรียนไม่เข้าใจอย่างท่องแท้ได้
· ผู้เรียนต้องรู้จักควบคุมการเรียนของตนเองจึงจะประสบความสำเร็จในการเรียนได้
|
การตัดสินใจเกี่ยวกับสื่อ
สื่อเป็นวิธีการซึ่งมีการนำเสนอสารสนเทศและแลกเปลี่ยนประสลการณ์ ในขณะที่สื่อเป็นคำที่ใช้อ้างถึงแบบของการเรียนการสอน (Mode of delivery) จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องมีวัสดุอุปกรณ์ที่จะส่งผ่านแบบการเรียนการนั้น ในทางตรรกะแล้วเป็นความจำเป็นทั้งส่วนที่เป็นอุปกรณ์ (Hardware) และส่วนที่เป็นวัสดุ(software) สำหรับการเรียนรู้ที่อาศัยคอมพิวเตอร์เป็นฐานเช่นเดียวกันกับสื่อโทรทัศน์ต้องอาศัยโปรแกรมพื้นฐาน
การตัดสินใจเกี่ยวกับสื่อสามารถทำได้ก่อน ทำตามหลัง หรือทำไปพร้อมๆกับการตกลงใจเกี่ยวกับวิธีการโดยทั่วๆ ไปแล้ว จะทำตามหลังหรือทำไปพร้อมๆกัน การบรรยายอาจจะต้องการองค์ประกอบของสื่อหรืออาจจะอยู่ในรูปแบบของโปรแกรมโทรทัศน์ ในสมัยก่อนวัสดุอุปกรณ์ส่วนใหญ่จะเป็นสื่อประเภทสิ่งพิมพ์
ในตอนนี้จะได้กล่าวถึงการแบ่งวิธีการ/สื่อ ออกเป็นสามประเภทคือ วิธีการ (methods) สื่อดั้งเดิม(traditional media) และเทคโนโลยีที่ใหม่กว่า (newer technology) ในด้านวิธีการดำเนินหลักสูตรโดยทั่วไปซึ่งอาจจะรวมๆ กัน แต่จะใช้สื่อรวมๆ กัน ส่วนสื่อเดิม ๆ จะรวมถึงงานพิมพ์ (print) และสื่อโสตทัศน์(audiovisual media) และสำหรับเทคโนโลยีใหม่ หรือสื่อดิจิทัล คือ การสื่อสารโทรคมนาคมและไมโครโพรเซสเซอร์ (microprocessor) สื่อ (media) สามารถจัดกลุ่มเป็นวัสดุสิ่งพิมพ์ (print materials) ทัศนวัสดุไม่ฉาย (nonprojected visuals) ทัศนวัสดุฉาย (projected visuals) สื่อประเภทเสียง(audio media) ระบบสื่อผสม (multimedia systems) ภาพยนตร์ (films) และโทรทัศน์ (television) สื่อแต่ละประเภทเหล่านี้สามารถแตกออกให้เลือกได้ในหลายรูปแบบ ดังแสดงในตารางที่ 18 และตารางที่ 19
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น